skip to Main Content
032-706906 info@wfft.org

ลิงอุรังอุตัง ที่อยู่อย่างผิดกฎหมายในสวนสัตว์ในภูเก็ต


เราได้รับรายงานว่าลิงอุรังอุตัง 11 ตัว ที่อยู่อย่างผิดกฎหมายในสวนสัตว์แห่งหนึ่งในภูเก็ต

เราจึงได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ของภาครัฐผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ หลังการเข้าตรวจค้นโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ลิงอุรังอุตังกลับไม่ได้ถูกยิดไปแต่ประการใด หลังจากนั้นกลับมีรายงานว่า มีการพบลิงอุรังอุตังข้างถนน และได้ส่งมอบให้แก่กรมอุทยาน โดยอ้างว่าเป็นของบริจาค
มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าได้ทำการร้องเรียนเมื่อสามปีที่แล้วเกี่ยวกับการมีลิงอุรังอุตังไว้ในครอบครองอย่างผิดกฎหมายที่สวนจรเข้และเสือในภูเก็ต โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแจ้าเข้ามาว่าพบเห็นลูกลิงอุรังอุตัง 4 ตัวภายในสวนสัตว์ จากนั้นทางมูลนิธิได้ส่งคนเข้าไปเพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่พบ ลิงที่อายุยังไม่มากนักตามที่ต่างๆภายในสวนสัตว์ หลังจากการพูดคุยกับพนักงานในสวนสัตว์ จึงทราบว่ามีลิงอุรังอุตังทั้งหมด 11 ตัว เจ้าของได้นำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย หลังจากทราบข้อเท็จจริงแล้ว เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิได้เข้าไปถ่ายภาพเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ลิงอุรังอุตัง 1ตัว ที่อยู่ในสวนสัตว์แห่งหนึ่งในภูเก็ต
ลิงอุรังอุตัง 1ตัว ที่อยู่ในสวนสัตว์แห่งหนึ่งในภูเก็ต

มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าไดส่งภาพถ่ายและหลักฐานต่างๆทั้งหมดที่มีต่อกรมอุทยานฯเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2552 แต่ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆจากกรมอุทยานฯเลย ทางมูลนิธิจึงตัดสินใจส่งจดหมายร้องเรียนอีกฉบัยต่อกรมอุทยานฯและอีกฉบัยต่อ อาเซี่ยน – WEN Wildlife Enforcement Network เครือข่ายช่วยเหลือสัตว์ป่าของกลุ่มอาเซี่ยน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น จนทางมูลนิธิได้โทรศัพท์ร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ เพื่อให้ลงมือในการบังคับใช้กฎหมาย ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทางมูลนิธิได้รับแจ้งจากกรมอุทยานฯว่าได้เข้าทำการตรวจค้นตามที่ได้รับการร้องเรียนมาแล้ว แต่ไม่พบลิงอุรังอุตังเลย เจ้าหน้าที่พื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ได้บอกทางมูลนิธิมว่าไม่เคยมรลิงอุรังอุตังเลย ทั้งๆที่เราได้ส่งทั้งรูปถ่ายและวีดีโอของที่เก็บลิงอุรังอุตัง

เป็นที่แน่ัดว่าเจ้าหน้าที่ของทางสวนสัตว์ได้ทราบล่วงหน้าถึงการเข้าตรวจค้นและได้เคลื่อนย้ายสัตว์ออกจากพื้นที่ มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าได้รับจดหมายตอบกลับจากกรมอุทยานฯว่า ทางอุทยานฯได้เข้าทำการตรวจค้นพื้นที่แต่ไม่พบหลักฐานใดๆ และได้ปิดข้อร้องเรียนลง แต่ทั้งรูปถ่ายและวีดีโอที่ทางมูลนิธิได้ให้ไว้เป็นหลักฐานต่อกรมอุทยานฯบ่งชี้อย่างชัดเจนว่ามีลิงอุรังอุตังจริง ทางมูลนิธิจึงได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลา 2 อาทิตย์ ก่อนที่จะได้รับแจ้งว่าได้พบลิงอุรังอุตังทั้ง 11 ตัวและได้ยึดมา เมื่อต้นเดือนมีนาคม

ลิงอุรังอุตังทั้ง 11 ตัวได้ถูกนำไปเก็บไว้ที่เขาประทับช้าง สถานเพาะพันธุ์สัตว์ป่าของกรมอุทยานฯ และพร้อมที่จะถูกนำตัวส่งกลับไปยังบ้านเกิดที่ประเทศอินโดนีเซีย ทางมูลนิธิยังได้ติดตามถามเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องถึงการแจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ้าของสวนสัตว์แห่งนั้น มูลนิธิได้รับแจ้งว่าตำรวจท้องที่เป็นผู้ดูแลคดี ทางมูลนิธิมีความเข้าใจอยู่เสมอว่าเจ้าของสวนสัตว์จะต้องถูกดำเนอนคดีข้อหาลักลอบนำเข้าสัตว์ป่าที่ CITES คุ้มครอง แต่หาเป็นเช้นนั้นไม่ อุทยานได้รับแจ้งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า ไม่มีการพบเห็นลิงอุรังอุตังที่สวนสัตว์เลย หากแต่เก็นได้ข้างทางระหว่างภูเก็ตและพังงาโดยไม่พบเจ้าของโดยเจ้าหน้าที่พื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 และได้นำเข้าไปสู่เขาประทับช้างโดยเป็นสัตว์ที่ได้รับบริจาค ถึงแม้ว่าถาพถายที่ทางมูลนิธิได้มอบไว้เป็นหลังฐานต่อกรมอุทยานจะเหมือนลิงอุรังอุตังที่พบในสวนสัตว์อย่างชัดเจน

สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือสิ่งที่รัฐบาลอิดโดนีเซียได้รับแจ้งนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง โดยเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียได้รับแจ้งว่าต้องรอเวลา 5 ปีถึงจะส่งมอบลิงอุรังอุตังคืนได้เนื่องจากลิงอุรังอุตังเป็นของกลางที่จับได้โดยไม่มีเจ้าของข้างถนน เจ้าหน้าที่จึงต้องยึดของกลางไว้เป็นเวลา 5 ปีเพื่อรอเจ้าของมาแสดงตน ทำให้เราไม่สามารถส่งคืนของกลางได้ แต่ทางมูลนิธิทราบข้อมูลที่แท้จริงว่าลิงอุรังอุตังเป็นของใคร
มันคล้ายกับการจับลิงอุรังอุตัง 8 ตัวที่สมุทรปราการเมื่อปี 2547 และ78 ตัว ที่ซาฟารีเววอร์ด เมื่อปี 2546 เจ้าของสถานที่ทั้งสองไม่ได้ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด

ทางมูลนิธิยังรอการจับกุมลิงอุรังอุตังอีก 2 ตัวที่โดนจับที่บ้านของพ่อค้าสัตว์ป่ามี่สระบุรีเมื่อเดือนกุมภาพันธุ์ 2555่ เราไม่ได้คาดหวังว่าพ่อค้ารายนี้จะถูกดำเนินการแต่ประการใดทั้งๆที่ทำผิดอย่างชัดเจน

คำถามที่สำคัญที่สุดจากข้อมูลและหลักฐานเบื้องต้นคือ การสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมายในประเทศไทย ลิงอุรังอุตังเป็นสุตว์ที่ได้รับการคุ้มครองจาก CITES ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมลงนามในสทธิสัญญานี้ด้วย แต่ผู้ลักลอบนำเข้ากลับไม่ถูกดำเนอนคดีแม้แต่รายเดียว

นาย เอ็ดวิน วีค ผู้ก่อตั้งมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ป่าที่เพชรบุรี ผู้ที่ได้รับการฟ้องว่าเป็นอาชญากรจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยตั้งข้อกล่าวหาจากสัตว์ที่เขาได้ช่วยเหลือมา และเรื่องอื่น ๆ รวมทั้งถูกกล่าวหาว่าค้าสัตว์ที่ผิดกฎหมายอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม ดูได้ที่มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า
Wildlife Friends Foundation Thailand
info@wfft.org

ร่วมมือกับเรา

มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าต้องการความช่วยเหลือจากคุณ เผยแพร่เรื่องราวและภารกิจปกป้องสัตว์ป่าของเราออกสู่ภายนอก
หากคุณอยากช่วยเหลือสามารถเยี่ยมชมและมามีส่วนร่วมกันกับเราได้

Wildlife Friends Foundation Thailand

Back To Top