เกิดเหตุไฟไหม้ เวลา 4:30 น. วันที่ 11 มิถุนายน 2567 ตลาดนัดจตุจักรโซนสัตว์เลี้ยงชื่อดังในกรุงเทพฯ และคาดว่ายังเป็นสถานที่ที่มักมีการลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายอีกด้วย ร้านสัตว์เลี้ยงเสียหายไป 118 ร้าน ทำให้สัตว์ตายไปจำนวนมาก ทั้งสุนัข แมว รวมถึงสัตว์ป่า และสัตว์ต่างถิ่นอย่าง หงส์ นกกระตั้ว และลิง
มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าเปิดหลักฐานขบวนการนำสัตว์ป่าคุ้มครอง
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ — จันทร์ที่ 4 มีนาคม 2556
มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าเปิดหลักฐานขบวนการนำสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น นางอาย ค่างแว่น มาบริการถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ขณะที่ตำรวจไม่จับกุมทั้งที่เป็นความผิด
ไทยโพสต์ * แฉขบวนการหากินกับสัตว์ป่าคุ้ม ครองในหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต พบนำชะนี นางอาย ค่างแว่น ลิงลม มาให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปแล้วรีดไถเงินครั้งละ 200 บาท แต่ตำรวจไม่จับกุม เผยเข้าข่ายทรมานสัตว์ อยู่ในสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม วอนเจ้าหน้าที่รัฐเร่งกวาดล้าง ด้านกรมอุทยานแห่งชาติฯ เผยจับได้แล้วหนึ่งคน เร่งขยายผลจับกุมให้ได้ทั้งแก๊ง
นายเอ็ดวิน วิค เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวบริเวณหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต พบว่ามีขบวนการนำสัตว์ป่าคุ้มครองมาหาผลประโยชน์อย่างผิดกฎหมาย หลังจากที่ได้มีนักท่องเที่ยวหลายรายทั้งชาวไทยและต่างชาติร้องเรียนกับทางมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าว่า พบเห็นการทารุณสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ที่จัดอยู่ในประเภทสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น ชะนี นางอาย ค่างแว่น งูเหลือม เป็นต้น เพื่อมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปแล้วเรียกเก็บเงินในลักษณะบังคับข่มขู่
นายเอ็ดวินกล่าวว่า ขบวนการดังกล่าวมีประมาณ 23-25 คนพร้อมกับสัตว์ป่าเดินไปตามถนนท่องเที่ยวเส้นหลักๆ ของหาดป่าตอง ตั้งแต่ช่วงเวลา 19.00-03.00 น. โดยนำสัตว์ป่า เช่น นางอาย ค่างแว่น มาวางบนหัวหรือบนไหล่ของนักท่องเที่ยว หรือไม่ก็นำงูเหลือมมาพันไว้รอบคอจนทำให้นักท่องเที่ยวตกใจกลัว เมื่อนักท่องเที่ยวปฏิเสธก็จะอ้างว่าได้มีการสัมผัสตัวสัตว์ป่าเหล่านั้นแล้ว จะต้องจ่ายเงินครั้งละ 200 บาท
ทั้งนี้ กลุ่มมิจฉาชีพมักจะคอยยืนดักนักท่องเที่ยวและกระจายตัวอยู่ตามร้านค้า สถานบันเทิงและบาร์เปลือยต่างๆ ที่มีคนพลุกพล่าน เสียงดนตรีอึกทึกครึกโครม มีหญิงบริการมากมาย และยังเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่อยู่ในอาการมึนเมาจากสุราอีกด้วย ซึ่งทำให้สัตว์ป่าต่างๆ เหล่านี้ ต้องตกอยู่ในสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้สัตว์ป่ามีสวัสดิภาพที่ย่ำแย่ เพราะที่อยู่ของสัตว์ก็คือป่าไม่ใช่ในเมือง ยกตัวอย่าง ชะนีถูกไล่ล่าอย่างทารุณในป่า โดยครอบครัวของชะนีจะถูกฆ่าทั้งหมดเพื่อให้ได้มาซึ่งลูกชะนีเพียงตัวเดียว หลังจากนั้นก็จะถูกวางยาเพื่อให้เซื่องซึม และต้องพบเจอคนแปลกหน้าตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน
“ผมไม่เห็นด้วยที่มีนักท่องเที่ยวบางคนรู้สึกสงสารขบวนการนี้ที่ทำมาหากินด้วยการทรมานสัตว์ ดังนั้นนักท่องเที่ยวควรจะเปลี่ยนทัศนคติของตนเอง หยุดสนับสนุนการทารุณสัตว์ทุกรูปแบบ เพราะถ้าสนับสนุนก็เท่ากับว่าท่านมีส่วนเกี่ยวข้องในการทารุณสัตว์ป่าอย่างโหดร้ายด้วย” นายเอ็ดวิน วิค กล่าว
เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่ายังกล่าวอีกว่า สำหรับรายได้ที่คนเหล่านี้ได้รับนั้นจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5,000-10,000 บาทต่อคนต่อคืน แต่ละคนจะแยกย้ายกันเดินไปรอบๆ หาด เฉลี่ยมีนักท่องเที่ยวถ่ายภาพกับสัตว์ประมาณชั่วโมงละ 5-10 คน ซึ่งเดือนหนึ่งน่าจะทำรายได้ให้กับคนพวกนี้คนละไม่ต่ำกว่า 300,000 บาทเลยทีเดียว ทั้งๆ ที่ชะนี นางอาย ค่างแว่น และงูเหลือมล้วนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่ห้ามมิให้มีการครอบครองและค้าขายโดยเด็ดขาด แต่ผู้ที่บังคับใช้กฎหมายกลับเพิกเฉย
ทางมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าของเราติดตามไปสำรวจดูที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต เท่าที่ทราบก็มีลูกชะนีมือขาว อายุประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี จำนวน 2 ตัว นางอายจำนวน 19 ตัว ค่างจำนวน 2 ตัว และสันนิษฐานกันว่าน่าจะมีสัตว์ป่าคุ้มครองอีกหลายชนิดที่ยังสำรวจไม่พบ
“จึงอยากจะเรียกร้องให้ทางตำรวจช่วยดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ด้วย เพราะการ กระทำดังกล่าวถือเป็นคดีอาญา ซึ่งได้มี พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า กำหนดไว้อยู่แล้ว ขาดแต่เพียงการบังคับใช้จากเจ้าหน้าที่รัฐอย่างจริงจังเท่านั้นเอง”
ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่ากล่าวว่า ประเทศไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม CitesCOP16 (อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์) แต่ประเทศไทยเองกลับไม่สามารถควบคุมการลักลอบค้าสัตว์ป่าหรือหากินกับสัตว์ป่าได้เลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่อับอายขายขี้หน้าต่อชาวโลกเป็นอย่างมาก
ด้านนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ กำลังประสานกับทางตำรวจในพื้นที่ อ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เพื่อสืบสวนและจับกุม ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบนำสัตว์ป่าคุ้มครองมาหากินกับนักท่องเที่ยวได้ 1 ราย พร้อมกับลิงลม 1 ตัว โดยตั้งข้อหาทำผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นบ้านพักของผู้ต้องหาคนดังกล่าวเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป
“ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สามารถจับกุมขบวนการนี้ได้ต่อเนื่อง กรมอุทยานฯ และตำรวจกำลังสืบสวนถึงต้นตอของขบวนการลักลอบหากินกับสัตว์ป่าดังกล่าวนี้อยู่ โดยสันนิษฐานว่าขบวนการนี้มีคนไม่ต่ำกว่า 20 คน ซึ่งน่าจะเป็นขบวนการเดียวกัน แต่ละวันผลัดเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ คืนละ 10 ถึง 20 คนเพื่อเดินไปรอบๆ หาดป่าตองและตามแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน เช่น หาดพัทยา เป็นต้น เพื่อไม่ให้ตำรวจในพื้นที่จดจำใบหน้าได้ ขณะนี้ทางกรมอุทยานฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินตรวจบริเวณแหล่งท่องเที่ยวตลอดทั้งคืน เพื่อทำการจับกุมบรรดามิจฉาชีพเหล่านี้อีกด้วย” นายธีรภัทรกล่าว.
Source: THAIPOST NEWSPAPER http://www.ryt9.com/s/tpd/1601544