ในวันที่ 29 กันยายน 2566 ชีวิตของนำโชคก็ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยการสนับสนุนจากทุกคน ในอดีตนำโชคต้องแบกเสลี่ยงแทบทุกวัน และบังคับให้แบกนักท่องเที่ยวหลากหลายคนไว้บนหลัง โดยไม่มีใครสนใจเลยว่านำโชคต้องทนทรมานอยู่ร่วม 50 ปี ทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้า
สังเวยนักอนุรักษ์กับการค้าสัตว์ป่า
A Letter to everyone in Thailand from ROGER LOHANAN of THAIAGA
โดย โรเจอร์ โลหนันทน์
เพิ่งเขียนเรื่องขบวนการค้าช้างค้าสัตว์ป่าของไทยไปหยกๆว่าจนปานนี้ยังหาคนผิดที่แท้จริงมาดำเนิการไม่ได้ ก็ได้ข่าวว่ากรมอุทยานแห่งชาตินำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมศูนย์อนุบาลสัตว์ป่าเพชรบุรีและศูนย์อนุรักษ์ช้างเนเจอร์ปาร์คที่เชียงใหม่ ทั้งที่ทราบแก่ใจว่าคุณเอ๊ดวิน วิค ผู้อำนวยการศูนย์อนุบาลสัตว์ป่าเพชรบุรีและ คุณแสงเดือน ชัยเลิศเนเจอร์ปาร์คเป็นนักอนุรักษ์ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในระดับสากลมานานนับสิบปี ในขณะที่สถานประกอบการที่น่าสงสัยจริงๆกลับยังลอยนวลอยู่ต่อไป
คุณเอ็ดวิน วิค ผู้ก่อตั้งและอำนวยการศูนย์อนุบาลสัตว์ป่าเพชรบรีมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการอนุรักษ์สัตว์ป่าระดับโลก เคยออกดิสคัพเวอรี่และเนชั่นแนลจีโอกราฟิคทีวีอีกต่างหาก ในขณะที่คุณแสงเดือนชัยเลิศ ก็ได้รับรางวัลสากลจากการเปิดเผยธรรมเนียมการผ่าจ้านหรือการพรากลูกช้างจากแม่ตั้งแต่ยังเล็กมาฝึกด้วยการล่ามตีอย่างทารุณเพื่อให้เชื่อฟัง นอกจากนี้คุณแสงเดือนยังได้ชื่อว่าเป็นแม่พระที่คอยบุกป่าฝ่าดงเข้าไปรักษาช้างป่าที่เจ็บป่วยมานานนับสิบปี แล้วทำไมกรมอุทยานจึงได้เลือกทั้งสองท่านเป็นเป้าหมาย แทนที่จะไปดำเนินการกับปางช้างต้องสงสัย อย่างวัดดังห่งหนึ่งในกาญจนบุรีที่ไม่เพียงปล่อยปละละเลยให้กลายเป็นแหล่งรวมสัตว์ป่าผิดกฎหมายมานานนับสิบปีจนบัดนี้ แถมยังเก็บค่าเข้าชมทั้งที่ยังไม่มีใบอนุญาตสวนสัตว์อีกด้วย ทั้งนี้ช้างและสัตว์ป่าที่คุณเอ็ดวินกับคุณแสงเดือนดูแลอยู่ล้วนแต่ได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากการบาดเจ็บ ป่วยไข้ อันเป็นการแบ่งเบาภาระของกรมอุทยานฯเพื่อประโยชน์แก่การอนุรักษ์ทั้งสิ้น และกรมอุทยานเองก็ทราบมาตลอด แถมยังเคยเชิญเอ็นจีโอเข้าลงนามความร่วมมืออย่างเป็นทางการกัน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติเป็นประธาน ตั้งแต่ครั้งที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นรัฐบาล แต่กรมอุทยานมักแกล้งลืม แม้จนบัดนี้ก็ยังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม หรือจะเป็นไปตามเสียงล่ำลือที่ว่า เพราะไม่พอใจที่คุณเอ็ดวินกับคุณแสงเดือนมักออกมาแสดงความเห็นแบบเผ็ดร้อนกรณีที่คนในกรมอุทยานต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าสัตว์ป่า อย่างเช่น คดีเผาช้างนั่งยางที่เพิ่งผ่านมา คุณเอ็ดวินก็ได้ออกมาให้ข้อมูลสื่อมวลชนขุดคุ้ยกรณีเจ้าหน้าที่ของอุทยานแก่งกระจานอาจเกี่ยวข้องกับการยักยอกงาช้างของกลาง หรือนี่เป็นการถือโอกาสเช็คบิลกับเอ็นจีโอปากกล้าทั้งหลาย
เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ยังไม่ทันที่เหล่านักอนุรักษ์จะได้ขอบคุณท่านอธิบดีกรมอุทยานในความเข้มงวดในการจัดการผู้บุกรุกป่า กลับต้องมาร่างหนังสือกล่าวโทษท่านฐานละเว้นหรือเลือกปฎิบัติหน้าที่อันมิชอบและอาจถึงขั้นต้องถวายฎีกาที่ดำเนินการขัดต่อพระราชเสวนีย์ เนื่องจากกรมอุทยานฯไม่เพียงไม่กล้าเข้มงวดกับสถานประกอบการสัตว์ป่าเพื่อป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่า กลับมุ่งเป้าไปที่กลุ่มอนุรักษ์ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ในขณะที่ไม่เคยมีการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดชัดเจน อย่างเช่นกรณีวัดที่พบว่ามีเสือผิดกฎหมายอยู่หลายตัว กรมอุทยานไม่เพียงไม่ดำเนินการจับกุมตามที่กลุ่มอนุรักษ์ทั้งในและต่างประเทศพยายามเรียกร้องมากว่าสิบปี กลับสนับสนุนให้กลายเป็นแหล่งรวมสัตว์ป่าผิดกฎหมาย แถมยังหาโอกาสออกใบอนุญาตสวนสัตว์ให้ทุกครั้งที่สังคมเผลออีกด้วย แต่กับคนดีๆที่เห็นชัดว่าช่วยสัตว์ป่าอยู่ กลับตามรังควาญไม่เลิกลา คำถามแรกที่กรมอุทยานรวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้นสังกัดต้องตอบประชาคมโลกคือ ศูนย์อนุบาลสัตว์ป่าเพชรบุรีต่างกับวัดเสืออย่างไร ทั้งสองแห่งต่างขึ้นทะเบียนเป็นมูลนิธิ มีสัตว์ป่าอยู่ในครอบครอง ทำไมแห่งหนึ่งจึงสนับสนุนอีกแห่งหนึ่งจับกุมโดยไม่ถามไถ่ หรือกฎหมายไทยก็มีสองมาตรฐาน??????????