Skip to content

เบื้องหลังความจริงของคาเฟ่สิงโต

คาเฟ่ที่อ้างว่า “นี่คือลูกสิงโตที่ได้รับการช่วยเหลือมา” เป็นเรื่องที่ไกลเกินความเป็นจริง

เราได้รับข้อความเข้ามามากมายในไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากมี คลิป TikTok โพสต์เปิดเผยถึงเบื้องหลังของคาเฟ่สิงโต ถึงอย่างนั้นก็ยังมีอีกหลายคนที่ลงคลิปชื่นชมในความน่ารักของสิงโต พร้อมแนะนำคาเฟ่ชักชวนให้คนเข้ามาเยี่ยมชม โดยไม่ได้นึกถึงเบื้องหลังที่สิงโตเหล่านี้ต้องเจอ

สิงโตไม่ใช่สัตว์ท้องถิ่นไทย และลูกสิงโตเหล่านี้ไม่มีวันได้หวนคืนสู่ป่า ทั้งชีวิตต้องถูกควบคุมตลอดเวลา เพื่อนำไปใช้สนองความต้องการของมนุษย์ ลูกสิงโตนี้ไม่ได้ถูกช่วยเหลือมาแต่อย่างใด แต่เป็นลูกสิงโตที่มาจากการเพาะพันธุ์ สามารถเช่าหรือซื้อผ่านฟาร์มสิงโตได้ โดยพรากลูกสิงโตที่อายุไม่ถึงสัปดาห์ไปจากแม่ เพื่อให้คนได้นำไปใช้ถ่ายรูปหรือสัมผัส เมื่อลูกสิงโตตัวใหญ่ขึ้น มักจะถูกส่งกลับไปยังฟาร์มเพาะเลี้ยง เพื่อทำการเพาะพันธุ์ต่อไป หรือแย่ไปกว่านั้นคือ นำไปกำจัดเพื่อเอากระดูกสิงโตไปขาย แสดงให้เห็นว่าสิงโตต้องถูกใช้งานไปตลอดชีวิต

สถานการณ์ฟาร์มเพาะเลี้ยงนั้นยากที่จะแก้ไข ทั้งสิงโตที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรงตลอดชีวิต และสิงโตที่ต้องให้กำเนิดลูกอย่างไม่มีวันหยุดพัก ความทุกข์ทรมาณเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงเพื่อให้มนุษย์ได้ถ่ายรูปเล่น

แต่ในประเทศไทยใครที่มีใบอนุญาต ก็สามารถครอบครองสิงโตได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ผู้คนมากมายเริ่มตั้งข้อกังวลว่า ที่คาเฟ่มีการใช้ยาสลบกับลูกสิงโตบ้างหรือไม่  แต่นั่นเป็นแค่ปัญหาเล็กเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ว่าจะมีการใช้ยาหรือไม่ก็ตาม สัตว์เหล่านี้ไม่สมควรอยู่ในคาเฟ่ หรือใช้เป็นสิ่งให้ความบันเทิงแก่มนุษย์ ปัญหาแท้จริงคือสิงโตไม่สมควรถูกเพาะพันธุ์ตั้งแต่แรก

การสัมผัสกับสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิดและผิดธรรมชาติ

ไม่ใช่แค่สิงโตเท่านั้น สถานที่ท่องเที่ยวเชิงสัตว์ป่าที่ไหนก็ตามแต่ที่มีการอนุญาตให้เข้าไปสัมผัสกับสัตว์ป่าได้อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นช้าง เสือ อุรังอุตัง นางอาย โลมา หรือสัตว์อื่นๆ ถือเป็นการทารุณกรรมสัตว์ทั้งสิ้น เราเข้าใจดีว่าผู้คนที่รักสัตว์ มักต้องการใกล้ชิดกับสัตว์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากเราเคารพรักสัตว์จริงควรรักษาระยะห่าง  มองดูสัตว์ป่าตามธรรมชาติ โดยไม่ฉวยโอกาสเข้าไปใกล้ชิดเพื่อความบันเทิง

สิ่งที่คุณควรทำคือ?

  • ไม่กดไลค์ กดแชร์ หรือคอมเมนท์ บนคลิปที่มีการโชว์สิงโตเลี้ยง
  • ไม่เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่อนุญาตให้สัมผัสสิงโตได้อย่างใกล้ชิด
  • ไม่เข้าชมการแสดงสัตว์ป่า
  • ไม่จ่ายเงินเพื่อป้อนนมให้สิงโต หรือถ่ายรูปร่วมกับสิงโตอย่างใกล้ชิด
  • แจ้งเหตุ ไปยังเว็บไซต์ รายงานเกี่ยวกับสัตว์ป่า ของเรา แล้วเราจะส่งวิธีการร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยิ่งมีคนเข้าไปร้องเรียนมากเท่าใด ยิ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเท่านั้น

มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า เป็นองค์กรเอกชนไม่แสวงหาผลกำไร ทำให้เราไม่มีสิทธื์ในการเข้าตรวจสอบสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่า หรือดำเนินการยึดสัตว์ป่าได้โดยตรง เราจึงทำได้เพียงรายงานเคสต่างๆ ที่พบเจอไปยังเจ้าหน้าที่

หากนักท่องเที่ยวทุกคนช่วยกันหยุดจ่ายเงินเพื่อหาประสบการณ์ใกล้ชิดสัตว์ป่าแบบนี้ วงจรการค้าสัตว์ป่า หรือ การใช้แรงงานสัตว์ป่าจะถึงจุดสิ้นสุด ขอเน้นย้ำว่า ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่แท้จริง ไม่อนุญาตให้มีการสัมผัสสัตว์ป่า เพราะเราดำเนินการตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ และการอนุรักษ์สัตว์ควรคำนึงถึงสัตว์ก่อนเป็นอันดับแรก

ร่วมเผยแพร่ความตระหนักเกี่ยวกับสัตว์ป่านี้ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสัตว์ป่าในอนาคต

ร่วมมือกับเรา

มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าต้องการความช่วยเหลือจากคุณ เผยแพร่เรื่องราวและภารกิจปกป้องสัตว์ป่าของเราออกสู่ภายนอก
หากคุณอยากช่วยเหลือสามารถเยี่ยมชมและมามีส่วนร่วมกันกับเราได้

Wildlife Friends Foundation Thailand

Back To Top